Loading...

HEALTH CORNER

อ่านเรื่องราวพบคำแนะนำเพื่อสร้างสุขภาพที่ดี พร้อมกิจกรรมและข่าวสารให้คนรักสุขภาพได้ดูแลตัวเองและคนรอบข้างอย่างถูกวิธี

อันตรายจากหมูกรอบ กินเกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เสี่ยงโรคเพียบ !

รู้หรือไม่ว่าถ้ารับประทานบ่อย ๆ ทำเสี่ยงโรคเพียบ อร่อยปากลำบากสุขภาพนะจะบอกให้

 

อาหารมากมายหลากหลายชนิดที่วางขายตามท้องตลาด ล้วนแต่ล่อตาล่อใจ และชวนให้เรารู้สึกอยากรับประทานกันอยู่ไม่น้อย ถึงแม้จะรู้ว่ากินมาก ๆ แล้วก็อาจจะทำให้อ้วน หรืออาจจะส่งผลเสียสุขภาพก็ตาม 

 

โดยเฉพาะอาหารทอด ที่เต็มไปด้วยน้ำมัน อย่างหมูกรอบที่บอกได้เลยว่านอกจากแคลอรีที่สูงปรี๊ดแล้ว ถ้ารับประทานเป็นประจำก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ

 

นำพาเอาความเสี่ยงโรคภัยต่าง ๆ มาทักทายเพียบ ถ้าอยากจะรู้ว่าอาหารชนิดนี้สามารถทำร้ายสุขภาพได้ขนาดไหนละก็ เรามาดูข้อเท็จจริงที่ผู้เชี่ยวชาญนำมาชี้แจงให้ได้ทราบกันเลยดีกว่าค่ะ

 

ดร.ฉัตรภา หัตถโกศล อาจารย์ประจำภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ชี้แจงถึงความเสี่ยงสุขภาพจากการรับประทานหมูกรอบเป็นประจำไว้ในเพจเฟซบุ๊ก Pleasehealth Books และในเอกสารเผยแพร่ความรู้ในโครงการ “รวมพลัง ขยับกาย สร้างสังคมไทย ไร้พุง” เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยว่า หมูกรอบเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง โดยหมูกรอบเปล่า ๆ เพียง 100 กรัมก็ให้พลังงานถึง 385-420 แคลอรี และมีไขมันถึง 30 กรัม 

 

ยิ่งถ้าหากนำไปปรุงเป็นอาหารอื่น ๆ เช่น ไปผัดกับน้ำมันก็จะยิ่งทำให้แคลอรีสูงขึ้น นอกจากนี้ในกรรมวิธีการทำหมูกรอบ เนื้อหมูที่นำมาใช้ก็เป็นหมูสามชั้น

 

และนำมาหมักกับเครื่องปรุงรสต่าง ๆ อาทิ เกลือ ซีอิ้ว แล้วนำไปทอดในน้ำมันท่วม และถ้าหากรับประทานบ่อย ๆ อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได

 

ทั้งนี้ความเสี่ยงสุขภาพที่จะได้รับจากการรับประทานหมูกรอบนั้นก็มาจากหมูสามชั้นที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ยิ่งนำไปทอดด้วยน้ำมันก็ยิ่งทำให้ไขมันอิ่มตัวสูงขึ้นกว่าปกติ

 

และไขมันอิ่มตัวนี้ล่ะที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจ ทำให้คอเลสเตอรอลสูงขึ้น เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ และไขมันในเส้นเลือด พลังงานจากหมูกรอบที่ได้รับก็สูงมากเกินไป

 

ทำให้มีสิทธิ์เป็นโรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคสมองเสื่อม และโรคมะเร็ง

 

ไม่เพียงเท่านั้น ยิ่งถ้าหากน้ำมันที่ใช้ทอดเป็นน้ำมันที่ผ่านการใช้ซ้ำมาแล้ว ก็จะยิ่งทำให้เสี่ยงกับการได้รับสารพิษที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างไขมัน

 

อาทิ สารโพลาร์ที่เป็นตัวก่อให้เกิดความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร โรคหัวใจ และหลอดเลือด 

 

ขณะที่ไอของน้ำมันที่ทอดซ้ำก็ยิ่งซ้ำเติมให้เกิดปัญหาสุขภาพ อันเนื่องมาจากสารโพลีไซคลิก โฮโดรคาร์บอนด์ (PAHs) ที่มีพิษร้ายแรงเช่นเดียวกับควันจากรถยนต์

 

ไฟจากการหุงต้ม และควันจากโรงงานอุตสาหกรรม การสูดดมเข้าติดต่อกันนาน ๆ จะทำให้เสี่ยงโรคระบบทางเดินหายใจ โรคมะเร็งปอด และโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว 

 

อีกทั้งการรับประทานของทอดบ่อย ๆ ก็ใช่ว่าจะดีกับสุขภาพ เพราะจากการศึกษาพบว่าในอาหารทอดมีสารอะคริลาไมด์ ที่เมื่อสะสมในร่างกายมาก ๆ

 

ก็จะกลายเป็นสารก่อให้เกิดโรคมะเร็งหลากหลายชนิด เช่น มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

 

นอกจากอันตรายจากน้ำมันที่ทอดและไขมันในหมูกรอบแล้ว ความเค็มที่มาจากการหมักหมูกรอบก่อนนำไปทอดก็ร้ายไม่แพ้กัน เพราะอย่างที่เรารู้ว่า ทั้งเกลือและซีอิ้วต่างก็มีโซเดียมสูงมาก

 

และการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมบ่อย ๆ จะทำให้ปริมาณโซเดียมในร่างกายสูงขึ้น และนำปัญหาสุขภาพมาเยี่ยมเยียนแบบไม่ได้นัดหมาย อย่างเช่น โรคไต โรคเบาหวาน โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร โรคกระดูก 

 

ถ้าคิดว่าโซเดียมในหมูกรอบมีไม่เยอะละก็ บอกเลยว่าคิดผิด เพราะข้าวหมูกรอบเพียง 1 จานก็มีโซเดียมถึง 700-1,000 มิลลิกรัม และเมื่อเทียบในอัตราส่วนของโซเดียมที่ควรได้รับในแต่ละวันซึ่งอยู่ที่ 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน ก็ถือว่าเป็นอาหารที่ควรจะอยู่ห่าง ๆ เลยเสียดีกว่า

 

ส่วนในเรื่องของผลกระทบของสุขภาพต่อการรับประทานหมูกรอบบ่อย ๆ นั้น รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์

 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เองก็ได้มีการสนับสนุนของเท็จจริงเช่นเดียวกัน และได้เปิดเผยไว้ในเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ว่า แม้หมูกรอบจะไม่ดีต่อสุขภาพอย่างมาก แต่ถ้าหากรับประทานไม่บ่อยก็จะไม่ส่งผลเสียสักเท่าไร 

 

เช่นเดียวกับคำแนะนำของ ดร.ฉัตรภา ที่แนะนำไม่ควรรับประทานเกินสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และควรรับประทานควบคู่กับอาหารอื่น ๆ ที่มีกากใยสูง เช่นผักต้ม ผักสด และหลีกเลี่ยงการรับประทานหมูกรอบที่นำไปผัดกับน้ำมัน 

 

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือควรหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายเผาผลาญไขมันสะสมออกจากร่างได้ เพื่อลดปัญหาอ้วนลงพุงค่ะ

 

แม้ว่าจะเป็นของกินที่อร่อยแต่ได้เห็นโทษแอบแฝงอยู่แบบนี้เลี่ยงการรับประทานไปเลยจะดีกว่า อย่างน้อยเพื่อความปลอดภัยของสุขภาพ หันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ที่มีไขมันน้อย ได้ประโยชน์มากกว่า แถมยังไม่ทำให้อ้วน และไม่มีภัยสุขภาพแถมมาอีกด้วย

 

 

ที่มา กระปุกดอทคอม