ริ้วรอย หรือ รอยเหี่ยวย่น เป็นสิ่งที่สร้างความวิตกกังวลอย่างมากให้กับผู้หญิงและคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการเกิดริ้วรอยบริเวณใบหน้าและรอบดวงตา เพราะถือว่าเป็นจุดสำคัญที่เห็นเด่นชัด ซึ่งการเกิดริ้วรอยนั้นเกิดจากอายุที่มากขึ้น และเกิดจากปัจจัยอื่นร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด มลพิษ สิ่งแวดล้อมและการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงอารมณ์และความเครียด ที่แตกต่างกันของแต่ละคนอีกด้วย
นพ.ธเนศ อมรพิทักษ์กูล หรือ หมอแบงค์ แพทย์แผนปัจจุบันและผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร เจ้าของ Herb Plus คลินิก เผยว่า สาเหตุของการเกิดริ้วรอยนั้นเกิดจากการสลายของเส้นใยคอลลาเจน และอิลาสตินใต้ผิวหนังถูกทำลาย ซึ่งอาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น รังสียูวีจากแสงแดด มลภาวะ อาจป้องกันได้โดยการทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF สูง ๆ แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอย คือ อายุ เมื่อเราอายุมากขึ้น คอลลาเจนและอิลาสติน ในผิวจะถูกผลิตได้น้อยลง ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น
“ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจปัจจัยพื้นฐานของผิวแต่ละคนด้วยว่าแตกต่างกัน ทำให้ปัญหาริ้วรอยของแต่ละคนนั้นย่อมแตกต่างกันไปด้วย บางคนอาจจะมีริ้วรอยหลายจุดบนใบหน้า หรือคนที่มีผิวแห้งมาก อาจจะเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าคนผิวมัน ส่วนคนที่ชอบขยี้ตาบ่อยๆ ก็สามารถทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายเช่นกัน ฉะนั้นการรักษาแบบใดแบบหนึ่งคงไม่เพียงพอ คงต้องใช้ลักษณะที่ผสมผสานกันไป” นพ.ธเนศ กล่าว
ปัจจุบันมีหลายวิธีที่สามารถกำจัดหรือลบเลือนริ้วรอยเหล่านี้ได้ด้วยวิธีต่างๆ เช่น การทำโบทอกซ์ ทำเลเซอร์ หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย หรือใช้ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยจากสารสกัดสมุนไพรที่มีส่วนผสมของ โสมเกาหลี (Korean Ginseng) ช่วยฟื้นฟูสภาพให้เปล่งปลั่ง ต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูเยาว์วัย ลดริ้วรอยกระชับรูขุมขนรวมทั้งเพิ่มการหมุนเวียนเลือด สารสกัดจากหญ้า Knotgrass ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ถึงชั้นเซลล์ผิว คืนความยืดหยุ่น และทำให้ผิวกระชับมากยิ่งขึ้น ใบบัวบก (Centella Asiatica) มีสารไกลโคไซต์ ช่วยในการสร้างสารคอลลาเจน คืนความชุ่มชื่นให้ผิวอย่างล้ำลึก แต่ก่อนการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยนั้น ควรพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่มีการทดสอบเรื่องความปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และควรผ่านการรับรองโดย อย. ด้วย
นอกจากวิธีที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว นพ.ธเนศ ยังแนะนำเคล็ดลับง่ายๆ เพื่อชะลอการเกิดริ้วรอย ด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 แก้ว เพราะผิวที่ขาดน้ำจะเห็นรอยเหี่ยวย่นชัดเจนขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการถูกแดดจ้า ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป นอนหลับอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงความเครียด และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วและยังช่วยปรับโครงสร้างเซลล์ใต้ผิวให้กลับสู่สภาวะปกติอีกด้วย
http://www.thaipr.net/health/601560
นพ.ธเนศ อมรพิทักษ์กูล หรือ หมอแบงค์ แพทย์แผนปัจจุบันและผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร เจ้าของ Herb Plus คลินิก เผยว่า สาเหตุของการเกิดริ้วรอยนั้นเกิดจากการสลายของเส้นใยคอลลาเจน และอิลาสตินใต้ผิวหนังถูกทำลาย ซึ่งอาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น รังสียูวีจากแสงแดด มลภาวะ อาจป้องกันได้โดยการทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF สูง ๆ แต่สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอย คือ อายุ เมื่อเราอายุมากขึ้น คอลลาเจนและอิลาสติน ในผิวจะถูกผลิตได้น้อยลง ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น
“ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจปัจจัยพื้นฐานของผิวแต่ละคนด้วยว่าแตกต่างกัน ทำให้ปัญหาริ้วรอยของแต่ละคนนั้นย่อมแตกต่างกันไปด้วย บางคนอาจจะมีริ้วรอยหลายจุดบนใบหน้า หรือคนที่มีผิวแห้งมาก อาจจะเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่าคนผิวมัน ส่วนคนที่ชอบขยี้ตาบ่อยๆ ก็สามารถทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายเช่นกัน ฉะนั้นการรักษาแบบใดแบบหนึ่งคงไม่เพียงพอ คงต้องใช้ลักษณะที่ผสมผสานกันไป” นพ.ธเนศ กล่าว
ปัจจุบันมีหลายวิธีที่สามารถกำจัดหรือลบเลือนริ้วรอยเหล่านี้ได้ด้วยวิธีต่างๆ เช่น การทำโบทอกซ์ ทำเลเซอร์ หรือ ใช้ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย หรือใช้ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยจากสารสกัดสมุนไพรที่มีส่วนผสมของ โสมเกาหลี (Korean Ginseng) ช่วยฟื้นฟูสภาพให้เปล่งปลั่ง ต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูเยาว์วัย ลดริ้วรอยกระชับรูขุมขนรวมทั้งเพิ่มการหมุนเวียนเลือด สารสกัดจากหญ้า Knotgrass ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ถึงชั้นเซลล์ผิว คืนความยืดหยุ่น และทำให้ผิวกระชับมากยิ่งขึ้น ใบบัวบก (Centella Asiatica) มีสารไกลโคไซต์ ช่วยในการสร้างสารคอลลาเจน คืนความชุ่มชื่นให้ผิวอย่างล้ำลึก แต่ก่อนการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยนั้น ควรพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่มีการทดสอบเรื่องความปลอดภัยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และควรผ่านการรับรองโดย อย. ด้วย
นอกจากวิธีที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว นพ.ธเนศ ยังแนะนำเคล็ดลับง่ายๆ เพื่อชะลอการเกิดริ้วรอย ด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 แก้ว เพราะผิวที่ขาดน้ำจะเห็นรอยเหี่ยวย่นชัดเจนขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการถูกแดดจ้า ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป นอนหลับอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงความเครียด และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วและยังช่วยปรับโครงสร้างเซลล์ใต้ผิวให้กลับสู่สภาวะปกติอีกด้วย
http://www.thaipr.net/health/601560